Meta มีแนวโน้มที่จะสร้างสถิติใหม่ โดยราคาหุ้นอยู่ห่างจากจุดสูงสุดตลอดกาลเพียง 5% และมีปัจจัยทางเทคนิคที่สนับสนุนการทะลุไปสู่ระดับสูงสุดใหม่ บริษัทกลับมาเป็นผู้นำในด้านโฆษณาโซเชียลมีเดียโดยใช้ประโยชน์จาก AI targeting และยังสามารถรักษาระดับการใช้จ่ายโดยรวมให้คงที่หลังจาก “ปีแห่งประสิทธิภาพ” ในปี 2023 ทำให้เกิดกระแสเงินสดอิสระ
Meta ผ่านช่วงเวลาที่ผันผวนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมีเหตุการณ์สำคัญ 4 ประการ ได้แก่
* ถูกเรียกตัวไปให้การต่อหน้าสภาคองเกรสเกี่ยวกับประเด็นความเป็นส่วนตัว
* การเปลี่ยนแปลงของ Apple ในปี 2021 ที่จำกัดการติดตามผู้ใช้ iPhone ซึ่งส่งผลกระทบต่อข้อมูลที่ Meta ใช้ในการกำหนดเป้าหมายโฆษณา
* เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีรายแรกที่เผชิญกับความท้าทายในการพัฒนา AI ในปี 2022
* ความมุ่งมั่นของ Meta ในปี 2023 ที่จะเน้นการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพและกลับมาเป็นผู้นำในด้านโฆษณาโซเชียลมีเดีย
Meta มีการเติบโตของกระแสเงินสดอิสระอย่างมีนัยสำคัญ โดยอยู่ที่ประมาณ 11-13 พันล้านดอลลาร์ต่อไตรมาส และคาดว่าจะเติบโตต่อไปในปี 2025
การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ของ Meta คาดว่าจะเพิ่มขึ้น แต่บริษัทอื่นๆ ก็ลงทุนในผลิตภัณฑ์ของ Nvidia เช่นกัน ดังนั้น Meta อาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก Meta กำลังมีความคืบหน้าอย่างมากในการใช้ระบบแนะนำเนื้อหาที่สร้างโดย AI บน Instagram Reels ซึ่งทำให้การแชร์เนื้อหาระหว่างผู้ใช้ได้รับความนิยมมากขึ้น
นักวิเคราะห์คาดว่า Meta จะมีกำไรเติบโต 14% ในอีกสองปีข้างหน้า และรายได้เติบโตประมาณ 12% ในปี 2025 EPS ที่คาดการณ์ไว้คือ 22.90 ดอลลาร์ ทำให้ Meta มีมูลค่าล่วงหน้าในระดับดัชนีที่ 22.8 เท่าของกำไร
จากมุมมองทางเทคนิค กราฟรายวันแสดงให้เห็นการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งขึ้นหลังจากที่ราคาหุ้นร่วงลงในช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 หากหุ้นยังคงปรับตัวสูงขึ้น อาจเห็นการกลับไปที่ระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 531.49 ดอลลาร์ และอาจขึ้นไปถึงระดับส่วนขยายแรกที่ประมาณ 568 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 504 ดอลลาร์ได้ แนวคิดการปรับตัวขึ้นในระยะสั้นนี้อาจไม่เป็นจริง
โดยสรุปแล้ว Meta มีแนวโน้มที่ดีในการเติบโตในระยะยาว ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและการเติบโตของธุรกิจที่ได้รับแรงหนุนจาก AI