* AWS เพิ่มวงเงินเครดิตสำหรับสตาร์ทอัพที่ระดมทุน Series A ได้สำเร็จเป็น 2 เท่า จาก 100,000 ดอลลาร์เป็น 200,000 ดอลลาร์ เพื่อดึงดูดและสนับสนุนสตาร์ทอัพให้เติบโตบนแพลตฟอร์มของตน
* เครดิตนี้สามารถใช้ได้กับผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ บนแพลตฟอร์ม AWS เช่น บริการประมวลผล, ฐานข้อมูล, ที่เก็บข้อมูล, และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา
* การเพิ่มวงเงินเครดิตมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2024 เป็นต้นไป และวงเงินเครดิตใหม่มีอายุ 3 ปี ในขณะที่วงเงินเดิมมีอายุ 1 ปี
* AWS ยังคงให้เครดิต 100,000 ดอลลาร์สำหรับสตาร์ทอัพที่อยู่ในระยะ seed stage เพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพในทุกขั้นตอน
* Matt Garman ซีอีโอคนใหม่ของ AWS ย้ำว่าการทำงานร่วมกับสตาร์ทอัพเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสตาร์ทอัพมักจะมีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถเติบโตเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ได้ในอนาคต
* Garman มองว่าบริษัท AI เป็นลูกค้าเป้าหมายของ AWS เนื่องจากบริษัท AI มักจะต้องใช้ทรัพยากรในการประมวลผลจำนวนมาก ซึ่ง AWS สามารถตอบสนองความต้องการนี้ได้
* AWS เป็นผู้นำตลาดคลาวด์อินฟราสตรักเจอร์ มีรายได้ 25 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2024 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของ AWS ในตลาดนี้
* Microsoft และ Google เป็นคู่แข่งที่สำคัญของ AWS ในตลาดคลาวด์และ AI โดยเฉพาะ Microsoft Azure ที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีบริการ AI ที่หลากหลาย
* AWS กำลังพยายามไล่ตาม Microsoft และ Google ในด้าน Generative AI โดยได้ลงทุนใน Anthropic ซึ่งเป็นบริษัท AI ที่พัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่
* AWS มีโปรแกรมเร่งการเติบโตสำหรับสตาร์ทอัพด้าน Generative AI ที่มีวงเงินสนับสนุนสูงสุด 1 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยให้สตาร์ทอัพสามารถพัฒนาเทคโนโลยี AI บนแพลตฟอร์มของ AWS ได้
* AWS ยังคงเป็นผู้นำตลาดคลาวด์อินฟราสตรักเจอร์ แต่ Microsoft กำลังไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ AWS ต้องเร่งพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำ
* AWS ได้ประกาศจ้าง David Luan ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Adept ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้าน AI พร้อมกับเพื่อนร่วมงานของ Luan และได้สิทธิ์ในการใช้เทคโนโลยีของ Adept เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริการ AI ของ AWS
การเพิ่มวงเงินเครดิตและการขยายระยะเวลาการใช้งานเป็นกลยุทธ์สำคัญของ AWS ในการแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Microsoft และ Google ในตลาดบริการ AI ที่กำลังร้อนแรง AWS ต้องการรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดคลาวด์อินฟราสตรักเจอร์ และดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาใช้บริการของตนอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่า AWS จะยังคงเป็นผู้นำตลาดในปัจจุบัน แต่ Microsoft Azure ก็เติบโตอย่างรวดเร็วและกำลังไล่ตามมาติดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านบริการ AI ซึ่ง Microsoft ได้รับแรงหนุนจาก OpenAI ผู้พัฒนา ChatGPT ทำให้ AWS ต้องเร่งปรับตัวและพัฒนาบริการ AI ของตนเองเพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน