Morgan Stanley ได้แสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ โดยคาดการณ์ว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 40,000 ตัวในปี 2030 เป็น 8 ล้านตัวในปี 2040 และสูงถึง 63 ล้านตัวในปี 2050 ซึ่งเป็นผลมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี AI ที่ช่วยให้พัฒนาหุ่นยนต์ให้มีความสามารถใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้น และปัญหาการขาดแคลนแรงงานทั่วโลกที่ทำให้ความต้องการหุ่นยนต์เพิ่มสูงขึ้น
ในรายงาน “Humanoids: Investment Implications of Embodied AI” Morgan Stanley ระบุว่า หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จะเข้ามาทำงานที่มนุษย์ไม่ต้องการทำ เช่น งานที่อันตราย น่าเบื่อหน่าย หรือต้องใช้แรงงานซ้ำๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของมนุษย์และลดความเสี่ยงในการทำงาน นอกจากนี้ หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ยังสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่เหนื่อยล้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนให้กับภาคธุรกิจต่างๆ
Morgan Stanley ไม่ได้มองว่าหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จะมาแทนที่งานของมนุษย์ทั้งหมด แต่จะเข้ามาทำงานร่วมกับมนุษย์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว
นอกจากนี้ Morgan Stanley ยังได้วิเคราะห์โอกาสการลงทุนในตลาดหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ โดยระบุว่าบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาหุ่นยนต์หรือส่วนประกอบสำคัญ (enabler) เช่น Tesla, Toyota, TSMC, Nvidia และ SK Hynix รวมถึงบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการใช้แรงงานหุ่นยนต์ (beneficiary) เช่น McDonald’s Corporation, Amazon.com และ DHL Group เป็นต้น มีศักยภาพในการเติบโตสูงในอนาคต
อย่างไรก็ตาม Morgan Stanley ยังเตือนว่าการลงทุนในหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ยังมีความเสี่ยงอยู่บ้าง เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีความซับซ้อนและต้นทุนสูง แต่ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและการลดต้นทุนการผลิต คาดว่าหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จะกลายเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจโลกในอนาคต
